จับสัญญานโทรศัพท์รวบ 2 อดีตดาบตำรวจ ผันตัวเป็นโจร ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าชิงทรัพย์พ่อค้าน้ำเต้าหู้ ชิงรถกระบะขับหลบหนี
จากเหตุการณ์ที่มีคนร้าย 2 คน แต่งกายในชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าทำร้ายนายจีรวัชร (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี พ่อค้าขายน้ำเต้าหู้ จนได้รับบาดเจ็บและชิงรถกระบะ หลบหนีไป เมื่อช่วงเวลา 20.30 นาฬิกาวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่าเรือ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี สืบทราบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้มีชื่อว่านายบรรเทิง แตงอ่อน หรือ ดาบบรรเทิง อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดกาญจนบุรี อดีตข้าราชการตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี คดีร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น จากการสืบเสาะประวัติทราบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนักธุรกิจขายมะนาว ชาวจังหวัดราชบุรี เสียชีวิต 2 ราย เมื่อวัน ที่ 7 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ดาบบรรเทิงถูกไล่ออกจากการเป็นตำรวจ
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนและจับสัญญานโทรศัพท์จนทราบว่าดาบบรรเทิงได้หลบหนีมาในพื้นจังหวัดลำปาง และนำรถกระบะคันที่ชิงทรัพย์มาจากจังหวัดกาญจนบุรี ขับมาจอดทิ้งไว้ภายในห้างแห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะมาขึ้นรถทัวร์เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสกัดจับกุมได้บนรถทัวร์
ต่อมา เจ้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผลไปจับผู้ต้องหาผู้ร่วมขบวนการอีกรายทราบคือนายปฏิวัติ สมหวัง อายุ 50 ปี หรือดาบท็อปอดีตข้าราชการตำรวจสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีที่ลาออกจากราชการเมื่อปี2564 สาเหตุที่ให้ลาออกเพราะไปพัวพันยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งจับได้ในพื้นที่ตัวเมืองกาญจนบุรีพร้อมตรวจยึดของกลางเป็นรถเก๋ง เป็นคันที่ใช้ก่อเหตุ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายทราบว่าได้ร่วมกันวางแผนก่อเหตุชิงทรัพย์ในครั้งนี้เพียงเพราะต้องการนำรถไปขายแล้วได้เงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งในส่วนตัวสองคนร้ายไม่ได้รู้จักกับนายจีรวัชรผู้เสียหายแต่อย่างใดเพียงแค่เห็นว่าผู้เสียหายมีรถสภาพใหม่จึงได้เลือกเป็นรถคันนี้เพียงเท่านั้น
ต่อมาทางด้านพลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 ได้เดินทางมาแถลงปิดคดีที่สถานีตำรวจภูธรท่าเรือ โดยผู้จัดการภาค7 เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการคลี่คลายคดีโดยเร็ว เนื่องจากกระทบกระเทือนกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน โดยทั้งสองผู้ต้องหายังแต่งกายคล้ายตำรวจในการก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ของสถานีตำรวจภูธรท่าเรืออีกด้วย
ผู้ต้องหาทั้งคู่ให้การยอมรับว่าได้แต่งกายเป็นเจ้าที่ตำรวจจริงเพื่อที่จะประสงค์ต่อทรัพย์ แต่อย่างไรก็ตามตนเองได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรกาญจนบุรีทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลว่ามีผู้ใดร่วมขบวนการก่อเหตุในครั้งนี้อีกด้วย หากประชาชนคนไหนเจอเหตุการณ์ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านในสถานที่เปลี่ยวให้หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน หากมีการก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้จะได้มีพยานหลักฐานไว้ในการติดตามตัวคนร้าย เพื่อมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
หลังจากแถลงปิดคดีเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวดาบบรรเทิงและดาบท็อปมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณจุดเกิดเหตุทั้ง 3 จุด ก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรีต่อไป