เจ้าของร้านอาหาร ฉุนลูกค้าเข้ามาสั่งกาแฟทั้งที่ไม่ได้ขาย ตามชกถึงในปั้ม ทำจมูกหัก รับทำผิดจริง แต่ขาดสติเพราะเมียถูกเหยียด
จากกกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปและข้อความระบุว่า “แชร์ได้ครับมันควรออกข่าวสักช่อง เตือนภัยร้านอาหารใหญ่ในไร่แห่งหนึ่ง ในเขตหนองบอนแดง บ้านบึง ชลบุรี วันที่ 4 ส.ค.66 น้องสาวผมพาหัวหน้าไปทานอาหาร ตอนเข้าร้านไปนางไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยหัวหน้าไปนั่งก่อน พี่เค้าสั่งกาแฟซึ่งร้านไม่มีขายแล้วพี่เค้าไม่รู้มันบอกกันดีๆ ก็ได้ ทางร้านก็เริ่มพูดไม่ดีว่านี่ร้านขายอาหารไม่ใช่ที่นั่งชิลต้องสั่งอาหาร
เมื่อรอน้องผมกลับไปโต๊ะ นางสั่งอาหาร 2 อย่าง ร้านบอกมันไม่คุ้มที่มานั่ง นางเลยต้องพาหัวหน้าออกจากร้าน ก่อนออกจากร้านพี่แกสบถกับร้านไปว่าสติไม่ดีมั้ยเลยออกจากร้านไปร้านกาแหแทน คิดไม่ถึงว่าร้านจะส่งคนตามมาทำร้าย พี่เค้าอายุจะ 60 แล้ว ดั้งจมูกหัก ไปทำเค้าทำไม ตอนนี้แจ้งความเรียบร้อย ให้เจ้าหน้าที่ทำงานไปเรื่องนี้ให้บทเรียน 1.อย่าให้ศัตรูรู้เส้นทางที่เราจะไปต่อ 2.มนุษย์มีหลายแบบที่เราคาดไม่ถึง 3.อย่าใช้กำลังแก้แค้นคนไม่ดี ปล่อยให้เวลาและสังคมตัดสิน 4.อาหารมันไม่ได้อร่อยแล้วแถมคนในร้านยังนิสัยแย่ เดี๋ยวมีอัพเดทสรุปให้หลังจากตำรวจทำงานจบครับ หลังจากที่คลิปนี้ปรากฏบนโลกโซเชียลมีการเข้าไปแสดงความคิดเห็นกดไลท์กดแชร์กันเป็นจำนวนมากซึ่งในทางส่วนใหญ่จะเป็นการประนามการใช้ความรุนแรง
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่ง เป็นร้านอาหารชื่อดังในพื้นที่ตำบลหนองบอนแดง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ได้พบกับนายเอ (นามสมมุติ) และนางบี (นามสมมุติ) ซึ่งทั้งสองคนเป็นเจ้าของร้านอาหารเมื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่ปรากฏเป็นคลิปในโซเชียล
นายเอได้เล่าว่า บุคคลในภาพเป็นตนเองจริง และเป็นคนชกคู่กรณีจริง โดยเรื่องมาจากสาเหตุที่คู่กรณีได้เข้ามาที่ร้านอาหารของตน และใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมเหยียดศักดิ์ศรีของนางสาวบี ซึ่งเป็นภรรยาของตนเองโดยใช้คำพูดที่ว่าปัญญาอ่อนสติไม่ดี ตนเองอยากให้แยกออกเป็นเรื่องๆ ในส่วนที่ตนเองผิดคือการตามไปทำร้ายคู่กรณีตนเองยอมรับผิด และยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง
ส่วนอีกกรณีหนึ่งให้นึกถึงก่อนเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นจนนำไปสู่การก่อเหตุ คู่กรณีไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเหยียดหรือดูถูกใครได้ตามอำเภอใจ ตนเองยอมรับว่าขณะลงมือก่อเหตุขาดสติ และหลังจากเกิดเหตุก็ไม่ได้หลบหนียังไปรอคู่กรณีที่สถานีตำรวจภูธรบ้านบึง แต่มาทราบภายหลังว่าคู่กรณีได้เดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอำเภอพนัสนิคม ตนเองจึงเดินทางกลับและรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวมาสอบถามข้อเท็จจริง เนื่องจากตนเองทราบอยู่แล้วว่าทางคู่กรณีต้องมาลงบันทึกประจำวันที่โรงพักพื้นที่เกิดเหตุ
ด้านนางสาวบี เล่าว่า ก่อนเกิดเรื่องเมื่อลูกค้ามานั่งที่โต๊ะผู้หญิงไปเข้าห้องน้ำ ตนเองไปรับออเดอร์อาหารปกติผู้ชายปัดมือบอกว่าไปๆ จะนั่งทำงานก่อน เพราะเพิ่งทานอาหารอิ่มมาแล้ว นางสาวบีเลยแจ้งไปว่าที่ร้านเป็นสวนอาหารไม่ใช่คาเฟ่ที่จะมานั่งทำงานตนจึงแนะนำให้ไปนั่งร้านคาเฟ่ดีกว่า พอลูกค้าผู้หญิงกลับมาจากเข้าห้องน้ำจึงถามว่ามีอะไรกัน ฝ่ายชายจึงบอกว่าเค้าให้สั่งอาหารฝ่ายหญิงจึงบอกว่าสั่งมาเอายำวุ้นเส้นโบราณกับแหนมซี่โครง ฝ่ายชายสวนขึ้นมาว่าร้านอะไรวะไม่เคยเจอ ไม่เต็มหรอ ไม่สมประกอบสติไม่ดี ว่ากล่าวมาที่ตน และฝ่ายหญิงจึงชวนไปนั่งร้านคาเฟ่แทน
ต่อมานายเอแฟนหนุ่มได้กลับมาจากออกกำลังกายถามว่าเกิดอะไรขึ้น จึงเล่าให้ฟังว่ามีลูกค้ามาต่อว่าปัญญาอ่อนสติไม่ดี พอแฟนทราบเข้าจึงถามว่าลูกค้าทั้งสองคนไปไหนพอทราบว่าน่าจะมานั่งดื่มกาแฟที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งจึงตามไปและเกิดเรื่องดังกล่าวชกต่อยในห้องน้ำปั๊มน้ำมันตามที่ปรากฎในคลิปที่แชร์ในโซเชียล
นางสาวบีได้พาให้ไปดูป้ายแนะนำที่มีข้อความว่า “อิ่มมาแล้วไว้โอกาสหน้านะคะ” ซึ่งมีติดไว้บริเวณทางเข้าให้ลูกค้าอ่าน เพื่อทราบคอนเซ็ปทางร้านและมีพนักงานต้อนรับคอยแนะนำเบื้องต้นว่าเปิดเป็นร้านอาหาร นอกเหนือจากนี้แล้วยังได้บอกรายละเอียดไว้ในเพจของทางร้านด้วยก่อนลูกค้าจะมาใช้บริการเพื่อให้เข้าใจตรงกันว่าไม่ใช่คาเฟ่ ไม่มีเครื่องดื่มชากาแฟไม่ใช่ร้านมานั่งเล่นหรือมานั่งทำงาน